๑๖. งานกรีฑา (๔)
เมื่อพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินในงานประจำปีของวชิราวุธวิทยาลัยเมื่อวันที่
๑๒ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๗๕ แล้ว
มีกำหนดจะเสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดตึกวชิรมงกุฎอีกครั้งในวันที่
๒๕ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๗๕ และกล่าวกันว่า
ในวันเดียวกันนั้นจะทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ
พระราชทานเหรียญดุษฎีมาลา เข็มศิลปะวิทยา
แก่หลวงวิศาลศิลปกรรม (เชื้อ ปัทมจินดา)
สถาปนิกผู้ร่วมออกแบบ
แต่เมื่อถึงกำหนดวันให้มีเหตุที่ไม่อาจเสด็จพระราชดำเนินได้
จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระเจ้าพี่ยาเธอ
กรมขุนชัยนาทนเรนทร [๑]
เสด็จทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์
หลวงวิศาลศิลปกรรมจึงยังมิได้รับพระราชทานเหรียญดุษฎีมาลา
มาจนถึงคราวฉลองพระนคร ๒๐๐ ปีเมื่อ พ.ศ. ๒๕๒๕
จึงเพิ่งจะได้รับพระราชทานเหรียญดังกล่าว
 |
พระพณิชยสารวิเทศ (ผาด มนธาตุผลิน) ผู้บังคับการวชิราวุธวิทยาลัย (๑ สิงหาคม ๒๔๗๘ - ๓๑ ธันวาคม ๒๔๘๕) |
จากนั้นมาพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวก็มิได้เสด็จพระราชดำเนินยังวชิราวุธวิทยาลัยอีกเลย
งานประจำปีซึ่งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ
ให้จัดเป็นประจำทุกปีในเดือนพฤศจิกายนก็เป็นอันต้องงดไป
เพราะในเดือนตุลาคม พ.ศ. ๒๔๗๖ ได้เกิดเหตุ กบฏบวรเดช
ขึ้น
ทำให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระบรมราชินีต้องเสด็จพระราชดำเนินหลีกหนีความวุ่นวายทางการเมืองไปประทับที่จังหวัดสงขลา
จนเหตุการณ์สงบลงจึงเสด็จพระราชดำเนิกลับถึงกรุงเทพฯ
ในวันที่ ๙ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๗๖ ต่อมาวันที่ ๒๐ มกราคม
ปีเดียวกันก็ได้เสด็จพระราชดำเนินไปประทับรักษาพระองค์ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา
และมิได้เสด็จนิวัติพระนครอีกเลยจนทรงสละราชสมบัติเมื่อวันที่
๒ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๗๗
และเมื่อพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล
พระอัฏฐมรามาธิบดินทร
ทรงรับสิริราชสมบัติและทรงรับวชิราวุธวิทยาลัยไว้ในพระบรมราชูปถัมภ์
แต่ในเวลานั้นยังประทับทรงศึกษาอยู่ที่ประเทศสวิสเซอร์
แลนด์
การจัดงานประจำปีของวชิราวุธวิทยาลัยซึ่งเป็นงานที่พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว
ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ
ให้จัดขึ้นเพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
จึงมิได้จัดขึ้นอีกเลย
ตราบจนรัฐบาลในเวลานั้นได้มีคำสั่งแต่งตั้งให้พระพณิชยสารวิเทศ
(ผาด มนธาตุผลิน) ซึ่งเคยเป็นผู้กำกับคณะพณิช (คณะพญาไท)
มาดำรงตำแหน่งผู้บังคับการวชิราวุธวิทยาลัย
แทนพระยาบรมบาทบำรุง (พิณ ศรีวรรธนะ)
ที่รัฐบาลมีคำสั่งให้พ้นจากตำแหน่งแล้ว
พระพณิชยสารวิเทศจึงได้ริเริ่มจัดงานประจำปีของวชิราวุธวิทยาลัยขึ้นอีกครั้งในวันที่
๑๒ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๗๘
|
สูจิบัตรงานประจำปีของวชิราวุธวิทยาลัย ๑๒
พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๗๘ |
งานประจำในยุคหลังเปลี่ยนแปลงการปกครองที่จัดขึ้นใน พ.ศ.
๒๔๗๘ นั้น ออกจะแปลกกว่างานประจำปีที่เคยจัดกันมา
เพราะงานประจำปีคราวนี้จัดขึ้นในระหว่างที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวประทับอยู่ที่ต่างประเทศ
จึงมิได้เสด็จพระราชดำเนินมาประทับเป็นองค์ประธานในงานเช่นทุกคราวที่เคยจัดมาแล้ว
ทั้งไม่ปรากฏว่าทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ
ให้ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์
หรือพระบรมวงศ์พระองค์ใดเป็นผู้แทนพระองค์ในงานคราวนี้
นอกจากนั้นในงานคราวนี้ยังไม่มีการแข่งขันกีฬาหน้าพระที่นั่งเช่นทุกคราว
แต่มีการแสดงสุนทรพจน์และการแสดงละครดังเช่นประเพณีปฏิบัติจองโรงเรียนในประเทศตะวันตก
ซึ่งมีรายละเอียดในกำหนดการจัดงานคราวนั้น ดังนี้
๑. ผู้บังคับการรายงานกิจการของโรงเรียน
๒.
รายงานของกรรมการตัดสินให้รางวัลแก่นักเรียนผู้แสดงความสามารถเรียนรู้พระราชนิพนธ์รัชกาลที่
๖
๓. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงธรรมการ
อุปนายกกรรมการวชิราวุธวิทยาลัยให้โอวาท แจกโล่และถ้วยซึ่งคณะต่างๆ
ในวชิราวุธวิทยาลัยแข่งขันชนะ
และประกาศนียบัตรและเครื่องหมายความสามารถแก่นักเรียนที่ได้รับในระหว่างปี
 |
นายนาวาเอก หลวงศุภชลาศัย (บุง ศุภชลาศัย) |
๔. สุนทรพจน์โดย นายนาวาโท หลวงศุภชลาศัย [๒]
อธิบดีกรมพลศึกษา กรรมการวชิราวุธวิทยาลัย
๕. ร้องเพลงไทยทำนองช้างประสานงา โดยนักเรียนชั้นเตรียม (เนื้อเพลงของเจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรี)
๖. สุนทรพจน์โดยผู้ปกครองนักเรียน
๗. ร้องเพลงสากล โดยนักเรียนชั้นเตรียม
๘. ละครพูดเรื่อง เลือดกตัญญู ของ พระพณิชยสารวิเทศ
แสดงโดย นักเรียนชั้น ๘
นามผู้แสดงละคร |
|
|
นายสว่าง
เรืองคุณ
เศรษฐีหนุ่ม อายุ ๒๕ ปี |
- นายไพโรจน์
โตกะหุต |
พระไพบูลย์ชินกิจ ลุงนายสว่าง
อายุ ๗๕ ปี |
- นายสมาน
เนียวกุล |
นายแจ่ม
ภักดีคุณ
ผู้จัดการบ้านเรือนของนายสว่าง |
- นายประจักษ์
โรจนประดิษฐ์ |
นายเพ็ง
มุ่งการดี
คนใช้เก่าแก่ของพระไพบูลย์
|
- นายจรัญ
อมรเวช |
นายเวทย์
รักธน
ทนายความประจำของพระไพบูลย์ |
- นายอุทิศ
อุดมศิลป์ |
นาย บี. อา. ซาเว คนขายเลหลัง |
- นายนึกสม
เศขรฤทธิ |
เสมียนของนายซาเว |
- นายปัทม์
ปัทมัษฐาน |
นายกุ่ย
จีนซื้อของเลหลัง |
- ม.ร.ว.ไกรเทพวงศวิชิต
เทวกุล |
นายเฮง จีนซื้อของเลหลัง |
- นายบุญเลื่อน
ศรีสวัสดิ์เล็ก |
นายฮ้อ
จีนซื้อของเลหลัง |
- นายสำรวล
พุกกะณานนท์ |
เพื่อนนายสว่าง |
- นายสมรัตน์
ศรีศิลปะนันทน์ |
|
- นายเสขศรี
ธรรมสโรช |
|
- นายสิทธิไชย
อัศวนนท์ |
|
- นายจำนง
เนียวกุล |
|
- นายเหลี่ยงสุย
นิมมานเหมินท์ |
|
- นายสนอง
อูนากูล |
|
- นายผงาด
มนธาตุผลิน |
|
- นายบุญสืบ
ศุภศิริ |
|
|
สรรเสริญพระบารมี |
|
ต่อมาในการจัดงานประจำปีของโรงเรียนในวันที่ ๑๒ พฤศจิกายน
พ.ศ. ๒๔๗๙ ยังได้พบหลักฐานเพิ่มเติมอีกว่า
โรงเรียนได้จัดให้มีการแข่งขันกรีฑาระหว่างคณะ เช่น
วิ่งกระสอบ วิ่งสามขา ในงานประจำปี
และในเวลานั้นได้มีการใช้สีประจำคณะแล้ว คือ
คณะพณิชยสารวิเทศ (คณะผู้บังคับการ)
|
- สีเหลือง |
คณะประคองวิชาสมาน (คณะดุสิต) |
- สีน้ำเงิน |
คณะประทัตสุนทรสาร (คณะจิตรลดา) |
- สีเขียว |
คณะปวโรฬารวิทยา (คณะพญาไท) |
- สีชมพู |
|
งานประจำปีในสมัยพระพณิชยสารวิเทศได้ดำเนินต่อมาจนถึง พ.ศ.
๒๔๘๔ แล้วต้องงดไปเพราะเกิดสงครามโลกครั้งที่
๒ และกรุงเทพฯ ประสบภัยทางอากาศ
จนโรงเรียนต้องย้ายไปเปิดการเรียนการสอนเป็นการชั่วคราวที่พระราชวังบางปะอิน
ในขณะเดียวกันพระพณิชยสารวิเทศได้พ้นจากตำแหน่งผู้บังคับการวชิราวุธวิทยาลัย
โดยมีพระยาภะรตราชา (ม.ล.ทศทิศ อิศรเสนา) มารับตำแหน่งแทน
|