 |
 |
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
บรมนาถบพิตร
ทรงฉลองพระองค์พระบรมราชูปถัมภกวชิราวุธวิทยาลัย |
ภายหลังเปลี่ยนแปลงการปกครองเมื่อวันที่ ๒๔
มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๗๕
และต่อมาพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินไปประทับรักษาพระองค์ที่ประเทศอังกฤษ
แล้วทรงสละราชสมบัติเมื่อวันที่ ๒ มีนาคม พ.ศ.
๒๔๗๗
ในขณะที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล
พระอัฐมรามาธิบดินทร์
ซึ่งทรงรับรัชทายาทเสด็จดำรงสิริราชสมบัติและทรงเป็นพระบรมราชูปถัมภกวชิราวุธวิทยาลัยยังคงประทับทรงศึกษาอยู่ที่ต่างประเทศ
จึงไม่มีการพระราชทานเสื้ออาจารย์และเสื้อครูแก่กรรมการ
อาจารย์และครูวชิราวุธวิทยาลัยอีกเลย
จนพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
บรมนาถบพิตร
ทรงพระมหากรุณาเสด็จพระราชดำเนินเหยียบวชิราวุธวิทยาลัยเป็นครั้งแรกในงานพระราชทานประกาศนียบัตรและรางวัลแก่นักเรียน
เมื่อวันที่ ๙ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๙๕ พระยาภะรตราชา
(ม.ล.ทศทิศ อิศรเสนา)
ผู้บังคับการวชิราวุธวิทยาลัยได้เชิญฉลองพระองค์พระบรมราชูปถัมภกขึ้นทูลเกล้าฯ
ถวาย
และได้ทรงฉลองพระองค์ครุยพระบรมราชูปถัมภกนี้ในเวลาเสด็จพระราชดำเนินมาทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจ
ณ วชิราวุธวิทยาลัยตลอดมาทุกคราว
ต่อมาในการประชุมคณะกรรมการอำนวยการวชิราวุธวิทยาลัย
ครั้งที่ ๖๒ เมื่อวันที่ ๒ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๙๕
มีความในรายงานการประชุมคราวนั้นบันทึกไว้ว่า
ผู้บังคับการแถลงว่า
ท่านนายกกรรมการได้ปรารภว่าเสื้อครุยที่ขอพระราชทานให้แก่นายกกรรมการนั้น
เนื่องจากนายกกรรมการเปลี่ยนบ่อยๆ
ถ้าจะขอพระราชทานเฉพาะบุคคลแล้วเป็นการสิ้นเปลืองมาก
จึงอยากจะขอให้เป็นการพระราชทานประจำตำแหน่ง
ใครมาเป็นนายกกรรมการก็มีสิทธิสรสมเสื้อครุยนั้นได้
จึงขอเสนอให้ที่ประชุมพิจารณา
ที่ประชุมพิจารณาแล้วลงมติว่า
เสื้อครุยสำหรับนายกกรรมการนั้น
เป็นของพระราชทานเพื่อเป็นเกียรติแก่ผู้รับพระราชทาน
ดังนั้นเมื่อผู้ใดได้รับพระราชทานแล้ว
ก็ควรให้เปนสิทธิเฉพาะตัวของผู้นั้นและมีสิทธิสรมได้ตลอดไป
แต่ควรกำหนดว่านายกกรรมการจะต้องดำรงตำแหน่งมาแล้วกี่ปีก่อน
จึงขอพระราชทานเสื้อครุยให้
ให้กำหนดไว้ในข้อบังคับที่จะร่างตามที่ลงมติไปแล้ว
[๑] |
ภายหลังจากที่มีการยกร่างข้อบังคับกรรมการอำนวยการวชิราวุธวิทยาลัย
ซึ่งกระทำกัน ณ ห้องประชุมกระทรวงศึกษาธิการ
เมื่อวันจันทร์ที่ ๒๐ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๙๕ แล้ว
ที่ประชุมคณะกรรมการอำนวยการวชิราวุธวิทยาลัยคราวประชุมครั้งที่
๖๓ เมื่อวันที่ ๓๐ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๙๕
ได้พิจารณาให้ความเห็นชอบร่างข้อบังคับดังกล่าว
แล้วนำขึ้นทูลเกล้าฯ
ถวายเพื่อขอพระราชทานพระบรมราชวินิจฉัยพร้อมกับรายงานการประชุมครั้งดังกล่าว
เมื่อได้รับพระราชทานพระบรมราชานุมัติแล้ว
วชิราวุธวิทยาลัยได้เริ่มใช้ข้อบังคับกรรมการอำนวยการวชิราวุธวิทยาลัย
พุทธศักราช ๒๔๙๕ มาตั้งแต่วันที่ ๑๘ ธันวาคม พ.ศ.
๒๔๙๕
ในข้อบังคับกรรมการอำนวยการวชิราวุธวิทยาลัย พ.ศ.
๒๔๙๕ ได้กำหนดเรื่องเสื้อครุยวชิราวุธวิทยาลัยไว้
ดังนี้
หมวด ๓
ครุยตำแหน่ง
ข้อ ๑๓. ครุยของวชิราวุธวิทยาลัย
เป็นครุยจำแหน่งแสดงฐานะของผู้ครอง และมี ๓ ชนิด
คือ
(๑) ครุยองค์บรมราชูปถัมภก
(๒) ครุยอาจารย์
(๓) ครุยครู
ครุยอาจารย์
พระราชทานแก่กรรมการผู้ดำรงตำแหน่งไม่น้อยกว่า ๕
ปี และอาจารย์ที่ปฏิบัติการในวชิราวุธวิทยาลัยมาแล้วไม่น้อยกว่า
๑๐ ปี
และต้องเป็นผู้มีความรู้เทียบได้ไม่ต่ำกว่าชั้นปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยที่รับรองวิทยฐานะแล้ว
ครุยครู
พระราชทานแก่ครูซึ่งเป็นครูในวชิราวุธวิทยาลัย
เป็นเวลาไม่น้อยกว่า ๑๒ ปี [๒] |
อนึ่ง
เมื่อวชิราวุธวิทยาลัยได้รับพระราชทานพระบรมราชานุมัติข้อบังคับกรรมการอำนวยการวชิราวุธวิทยาลัย
พ.ศ. ๒๔๙๕ แล้ว
ได้วางระเบียบปฏิบัติในการขอพระราชทานเสื้อครุยแก่นายกกรรมการอำนวยการ
ผู้กำกับคณะ
และครูเพิ่มเติมจากที่กำหนดไว้ในข้อบังคับฯ คือ
ครุยอาจารย์ พระราชทานนายกกรรมการฯ
ในคราวแรกที่ได้ทำหน้าที่กราบบังคมทูลพระกรุณารายงานกิจการทั่วไปของโรงเรียนในวันเสด็จพระราชดำเนินพระราชทานประกาศนียบัตรและรางวัลประจำปี
ผู้กำกับคณะพระราชทานเมื่อผู้นั้นได้ปฏิบัติหน้าที่ผู้กำกับคณะมาแล้วไม่น้อยกว่า
๕ ปี
ครุยครู
พระราชทานแก่ครูที่มีคุณวุฒิต่ำกว่าชั้นปริญญาตรี
และปฏิบัติหน้าที่ครูในวชิราวุธวิทยาลัยมาแล้วไม่น้อยกว่า
๑๕ ปี
ต่อมาในการประชุมคณะกรรมการอำนวยการวชิราวุธวิทยาลัย
ครั้งที่ ๖๗ เมื่อวันที่ ๗ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๑๑
คณะกรรมการอำนวยการวชิราวุธวิทยาลัยได้ให้ความเห็นชอบให้ปรับปรุงข้อบังคับกรรมการอำนวยการวชิราวุธวิทยาลัย
พ.ศ. ๒๔๙๕ ให้เหมาะสมยิ่งขึ้น ซึ่งในข้อบังคับฯ
ที่ปรับปรุงใหม่นั้ได้กำหนดเรื่องครุยตำแหน่งของวชิราวุธวิทยาลัยไว้ในหมวดที่
๔
โดยมีเนื้อความคงเดิมตามที่กำหนดไว้ในข้อบังคับกรรมการอำนวยการฯ
พ.ศ. ๒๔๙๕ ทุกประการ
เกณฑ์การพระราชทานครุยอาจารย์แก่กรรมการอำนวยการวชิราวุธวิทยาลัยดังกล่าว
คงใช้มาจนถึงสมัยที่ ดร.ชัยอนันต์ สมุทวณิช
ดำรงตำแหน่งผู้บังคับการวชิราวุธวิทยาลัย
และคณะกรรมการอำนวยการวชิราวุธวิทยาลัยได้มีการปรับเปลี่ยนกรรมการโดยตำแหน่งซึ่งเป็นรัฐมนตรีและอธิบดีกรมต่างๆ
ในกระทรวงศึกษาออกจากตำแหน่งนายกกรรมการอำนวยการฯ
และกรรมการโดยตำแหน่งแล้ว คณะกรรมการอำนวยการฯ
จึงได้มีมติให้แก้ไขหลักเกณฑ์การขอพระราชทานครุยอาจารย์แก่กรรมการอำนวยการฯ
ซึ่งเดิมกรรมการอำนวยการฯ
ที่จะได้รับพระราชทานครุยอาจารย์นั้นต้องดำรงตำแหน่งติดต่อกันมาไม่น้อยกว่า
๕ ปี
เป็นได้รับพระราชทานในปีแรกที่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการอำนวยการฯ
ส่วนเกณฑ์พระราชทานครุยอาจารย์แก่
ผู้กำกับคณะและอาจารย์
และครุยครูแก่คงครูคงถือปฏิบัติตามหลักเกณฑ์เดิมตลอดมา
 |
เจ้าพระยาพระเสด็จสุเรนทราธิบดี (ม.ร.ว.เปีย
มาลากุล)
เสนาบดีกระทรวงธรรมการ
ผู้ตรวจการพิเศษโรงเรียนมหาดเล็กหลวง
แต่งเครื่องแบบปกติมหาอำมาตย์เอก
สวมเสื้ออาจารย์โรงเรียนมหาดเล็กหลวง |
ฉลองพระองค์อาจารย์ (ครุยพระบรมราชูปถัมภก)
เสื้ออาจารย์ (ครุยอาจารย์) เสื้อครู (ครุยครู)
โรงเรียนมหาดเล็กหลวงที่พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระราชดำริไว้ตั้งแต่
พ.ศ. ๒๔๕๖ นั้น
มีรูปลักษณะเป็นเสื้อครุยพื้นผ้าโปร่งสีขาวแบบเสื้อครุยไทย
มีสำรดกำมะหยี่สีน้ำเงินติดแถบไหมเงินที่ขอบรอบ
และที่ต้นแขน ปลายแขนเหมือนกัน
หากต่างกันตรงแถบไหมเงินที่ติดบนสำรด เสื้ออาจารย์นั้น มีแถบไหมเงินกว้าง ๑
เซนติเมตรติดที่ริมขอบสำรดทั้งสองข้าง
ตอนกลางสำรดมีแถบไหมเงินกว้าง ๑ เซนติเมตรเรียงกัน
๒ แถบ กับมีแถบไหมเงินเล็กกว้างกึ่งเซนติเมตร ๑
แถบ คั่นกลางระหว่างแถบไหมเงินใหญ่ทั้งสอง
 |
พระบาทสมเด็จพระปรมินมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
บรมนาถบพิตร
ทรงฉลองพระองค์พระบรมราชูปถัมภกวชิราวุธวิทยาลัย |
ฉลองพระองค์อาจารย์ หรือ ฉลองพระองค์ครุยพระบรมราชูปถัมภก
นั้น
มีลักษณะเช่นเดียวกับเสื้ออาจารย์ที่พระราชทานแก่กรรมการและอาจารย์
แต่มีพิเศษตรงที่มีสำรดที่ข้างพระองค์เช่นเดียวกับฉลองพระองค์พระราชวงศ์
 |
หุ้มแพร หลวงอภิบาลบุริมศักดิ์ (นัดดา ตฤษณานนท์)
ครูโรงเรียนมหาดเล็กหลวง
แต่งเครื่องแบบปกติกรมมหาดเล็ก
สวมเสื้อครูโรงเรียนมหาดเล็กหลวง |
ส่วนเสื้อครู (ครุยครู) นั้นมีแต่แถบไหมเงินกว้าง
๑ เซนติเมตร
กับแถบไหมเงินเล็กกว้างกึ่งเซนติเมตรประดับเป็นริ้วคู่กันที่ริมขอบสำรดทั้งสองด้าน
เสื้อครุยโรงเรียนมหาดเล็กหลวงนี้
มีหลักฐานว่าพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวได้ทรงใช้เป็นต้นแบบในการทรงพระราชดำริเสื้อครุยเนติบัณฑิต
และจุฬาลงกรณมหาวิทยาลัยได้ใช้เป็นต้นแบบในการขอพระราชทานเสื้อครุยสำหรับบัณฑิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ซึ่งจะได้กล่าวในรายละเอียดในตอนต่อไป