 |
พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
ทรงช้างพระที่นั่ง พังปี
ผูกเครื่องกูบสัปคับสี่หน้าลายทองของเจ้าพระยาสุธรรมมนตรี
(หนูพร้อม ณ นคร)
เมื่อเสด็จพระราชดำเนินกลับจากประพาสน้ำตกโยง
จังหวีดนครศรีธรรมราช
วันที่ ๑๗ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๕๘ |
อนึ่ง
ในการเสด็จพระราชดำเนินโดยกระบวนช้างพระที่นั่ง
เช่น
คราวเสด็จพระราชดำเนินเลียบหัวเมืองมณฑลปักษ์ใต้
พ.ศ. ๒๔๖๐
เมื่อจะเสด็จพระราชดำเนินจากเมืองชุมพรไปยังตำบลทับหลีที่ริมแม่น้ำปากจั่น
เมืองระนอง สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ
เจ้าฟ้ากรมขุนลพบุรีราเมศวร์ [๑]
ทรงจัดช้างพระราชพาหนะผูกสัปคับที่กลางช้างเป็นที่ประทับ
สัปคับที่กลางช้างนั้นมีเชือกห้อยลงมาผูกยึดติดกับขาช้างทั้ง
๔ ขา มีพระตำรวจและราชองครักษ์ประจำที่ขาช้างทั้ง
๔
โดยพระตำรวจอยู่ชิดติดขาช้างเดินไปพร้อมกับช้างเพื่อถวายอารักขา
และทำหน้าที่จับเชือกเหนี่ยวรั้งมิให้สัปคับที่กลางช้างเลื่อนไปทางศีรษะช้างในเวลาช้างเดินลงห้วย
และเลื่อนไปทางท้ายช้างเวลาขึ้นจากลำห้วย
 |
ภาพจิตรกรรมฝาผนังวัดสุวรรณดาราม
แสดงให้เห็นเจ้ากรมพระตำรวจหลวงทั้งสี่เดินประจำสี่เท้าช้างพระที่นั่ง |
นอกจากหน้าที่ราชการประจำของกรมพระตำรวจดังได้กล่าวมาแล้ว
พระตำรวจหลวงยังมีหน้าที่พิเศษที่ปฏิบัติต่อเนื่องกันมาจนถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวอีกหลายอย่าง
เช่น ไปดูการประหารชีวิตนักโทษที่นอกพระนคร
เริ่มจากก่อนการประหารชีวิต ๑ วัน
พระตำรวจหลวงต้องถือหมายไปขอพบนักโทษในเรือนจำ
เพื่อสอบถามชื่อนามสกุล หมายเลขประจำตัว
และฐานความผิดของนักโทษให้ถูกต้องตรงตามหมาย
ถ้าตรวจสอบแล้วนักโทษไม่ตรงตามหมายต้องสั่งระงับการประหารแล้วรีบนำความกราบบังคมทูลพระกรุณาเพื่อให้มีการไต่สวนใหม่
แต่ถ้าตรวจสอบแล้วตรงตามหมาย
วันรุ่งขึ้นจึงคุมนักโทษออกไปประหารด้วยการตัดศีรษะที่วัดภาษี
ริมคลองบางกะปิ
เสร็จการประหารนักโทษแล้วพระตำรวจหลวงที่ไปดูการประหารชีวิต
ต้องจดเวลาลงดาบ...และเพชณฆาตดาบ ๑ ดาบ ๒
ชื่ออะไร นามสกุลอะไร
ข้าราชการที่อยู่ในม่านทั้งหมดต้องจดชื่อ นามสกุล
เพื่อจะได้นำมาทำรายงานกราบบังคมทูลให้ทรงทราบ [๒]
เมื่อการก่อสร้างเรือนจำบางขวางแล้วเสร็จในตอนปลายรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวแล้ว
จึงเลิกการประหารชีวิตด้วยวิธีตัดศีรษะและเปลี่ยนมาเป็นการประหารด้วยวิธียิงเป้าเช่นนานาอารยประเทศภายในเรือนจำบางขวาง
พระตำรวจหลวงจึงไม่ต้องไปดูการประหารนักโทษตั้งแต่บัดนั้น
นอกจากนั้นยังมีการเบ็ดเตล็ดอื่นๆ
ที่พระตำรวจหลวงต้องปฏิบัตืสืบต่อกันมาแต่โบราณกาล
คือ การยกพระบรมโกศทรงพระบรมศพพระมหากษัตริย์
ซึ่งแม้ว่าจะเปลี่ยนให้นายทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์
จ.ป.ร.เป็นผู้ยกพระบรมโกศมาแต่ครั้งประดิษฐานพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวใน
พ.ศ. ๒๔๕๓ แล้ว
แต่พระตำรวจหลวงก็ยังคงมีหน้าที่ยกพระโกศทรงพระศพพระบรมวงศ์และสมเด็จพระสังฆราช
รวมถึงการยกพระคันธารราษฎร์แห่นำพระชัย
พระอัฐิและพระอัฐิ มาจนถึงปัจจุบัน
กรมพระตำรวจหลวงคงทำหน้าที่เป็นกรมทหารรักษาพระองค์ในสังกัดกระทรวงวังเช่นเดียวกับกรมทหารรักษาวัง
ว.ป.ร.
มาจนสิ้นรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
ต่อมาในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว
มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ
ให้เจ้าพระยาวรพงษ์พิพัฒน์ (ม.ร.ว.เย็น อิศรเสนา)
ผู้รั้งตำแหน่งเสนาบดีกระทรวงวังพิจารณาการในพระราชสำนักทุกแผนกให้การดำเนินไปตามกระแสพระราชดำริห์
เมื่อผู้รั้งตำแหน่งเสนาบดีกระทรวงวังเห็นว่า
ตำแหน่งราชการที่มีอยู่เดิม
บางตำแหน่งไม่เหมาะแก่น่าที่
นอกจากนี้ก็ยังพอที่จะยุบรวมกันตัดลดให้น้อยลงได้ทั้งคนและเงินงบประมาณ
จึ่งได้กำหนดโครงการนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย
ได้พระราชทานพระบรมราชานุญาตแล้ว [๓]
จึ่งให้ยุบตำแหน่งต่างๆ
ในกรมพระตำรวจหลวงรักษาพระองค์ที่ได้มีขึ้นในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
คงเหลือพระตำรวจประจำการเพียง ๒ หมวด คือ
หมวดพระยามหามนตรีศรีองครักษ์สมุห
กับพระยามหาเทพกษัตนสมุห หรือกรมพระตำรวจใน ขวา
ซ้าย ตามทำเนียบเดิม
และห้ยกหมวดพระตำรวจหลวงทั้งสองหมวดนั้นไปสังกัดกรมวัง
ในบังคับบัญชาสมุหพระราชมณเฑียร
คงทำหน้าที่ถวายอารักขาพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี
พระบรมราชินี
เรื่อยมาจนเกิดการเปลี่ยนแปลงการปกครองในวันที่ ๒๔
มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๗๕ แล้ว
กรมพระตำรวจหลวงจึงถูกยุบเลิกไปตั้งแต่วันที่ ๑
สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๗๕
 |
สี่พระตำรวจนำเสด็จพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
บรมนาถบพิตร |
ต่อมาภายหลังสงคามโลกครั้งที่ ๒
เมื่อพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
บรมนาถบพิตร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ พลตรี
หม่อมทวีวงศ์ถวัลยศักดิ์ (ม.ร.ว.เฉลิมลาภ ทวีวงศ์)
มาดำรงตำแหน่งเลขาธิการพระราชวังแล้ว
ได้มีการรื้อฟื้นพระราชประเพณีสำคัญในพระราชสำนักขึ้นใหม่
รวมทั้งได้รื้อฟื้นให้มีพระตำรวจหลวง
ปฏิบัติหน้าที่ถวายความปลอดภัยในเป็นประจำทุกวันตลอด
๒๔ ชั่วโมง กับป้องกันรักษาพระองค์
และถวายประดับพระเกียรติยศในการปฏิบัติหน้าที่ รับ
- นำเสด็จพระราชดำเนินไปในงานพระราชพิธี, รัฐพิธี,
งานประเพณี และงานสาธารณกุศลค่างๆ ตามหมายรับสั่ง
และหมายกำหนดการ ทั้งในปริมณฑลและต่างจังหวัด [๔]
คงเป็นหน่วยราชการเดียวในพระราชสำนักที่ยังคงใช้เครื่องแบบเหมือนที่เคยใช้มาก่อนเปลี่ยนแปลงการปกครอง
ปัจจุบันพระตำรวจหลวง
เป็นส่วนราชการระดับฝ่ายในสังกัดกองวัง
สำนักพระราชวัง แบ่งส่วนราชการภายในเป็น ๓ งาน คือ
๑. งานเวรตำรวจหลวงรักษาพระองค์ ๑
๒. งานเวรตำรวจหลวงรักษาพระองค์ ๒
๓. งานธุรการ / พสดุ ฝ่ายตำรวจหลวงรักษาพระองค์
 |
ครูและนักเรียนวชิราวุธวิทยาลัยร่วมกระบวนพระบรมราชอิสริยยศ
ในฐานะพระตำรวจหลวงและมหาดเล็กคู่แห่ในกระบวนพระบรมราชอิสริยยศ
ในงานพระบรมศพ
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
บรมนาถบพิตร
เมื่อวันที่ ๒๖ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ |
อนึ่ง
ในงานพระราชพิธีสำคํญที่ต้องใช้พระตำรวจหลวงเข้าร่วมกระบวนแห่จำนวนมาก
ก็จะใช้ครูและนักเรียนวชิราวุธวิทยาลัยแต่งเครื่องแบบมหาดเล็กหลวงและพระตำรวจหลวงเข้ากระบวนแห่เป็นคราว
ๆ ไป