 |
พระบรมราชานุสาวรีย์ ณ สวนลุมพินี
เมื่อเสริมแท่นฐานแล้วเสร็จ |
เมื่อการสร้างเสริมฐานพระบรมราชานุสาวรีย์แล้วเสร็จ
แต่เนื่องจากเวลานั้นสถานการณ์ภายในประเทศยังอยู่ในสภาวะสงคราม
รัฐบาลในเวลานั้นจึงได้จัดให้มีพระราชพิธีเปิดพระบรมราชานุสาวรีย์
ณ สวนลุมพินีโดยไม่มีการเฉลิมฉลอง เมื่อวันที่ ๒๑
เมษายน พ.ศ. ๒๔๘๕
และในการพระราชพิธีเปิดพระบรมรูปคราวนั้น
คณะผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ในพระปรมาภิไธยพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล
พระอัฐมรามาธิบดินทร์ ได้โปรดเกล้าฯ
พระราชทานตรารัตนวราภรณ์และเหรียญรัตนาภรณ์ ว.ป.ร.
เป็นบำเหน็จความชอบแก่ผู้ที่ได้ปฏิบัติราชการเกี่ยวกับการสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
ณ สวนลุมพินี ดังนี้
รัตนาภรณ์ ว.ป.ร.ชั้นที่ ๒ |
เจ้าพระยาพิชัยญาติ (ดั่น บุนนาค)
นายวิจิตร วิจิตรวาทการ [๑]
นายพันตรี วิลาศ โ อสถานนท์
พระยาประชากิจกรจักร (ชุบ โอสถานนท์)
หม่อมราชวงศ์โป้ย มาลากุล [๒] |
|
รัตนาภรณ์ ว.ป.ร.ชั้นที่ ๓ |
นายสาโรช รัตนนิมมานก์ สุขยางค์ [๓]
นายล้อม บุรกรรมโกวิท [๔]
หลวงสรรสารกิจ (เคล้า คชนันทน์) |
|
รัตนาภรณ์ ว.ป.ร.ชั้นที่ ๔ |
หม่อมเจ้าสมัยเฉลิม กฤดากร
หลวงเมธีนฤปกร (สดวก บุนนาค)
นายเฟโรจี [๕] |
|
รัตนาภรณ์ ว.ป.ร.ชั้นที่ ๕ |
นายสอาด สิงหพรรค |
ต่อมาเมื่อสงครามโลกครั้งที่สองสงบลงและสถานการณ์บ้านเมืองเริ่มกลับเข้าสู่สภาวะปกติ
สมาคมนักเรียนเก่าวชิราวุธวิทยาลัยก็ได้กลับมาจัดงานวชิราวุธานุสรณ์เพื่อรวบรวมเงินรายได้จากการจัดงานส่งไปสมทบสาธารณกุศลที่เนื่องด้วยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวต่อมาจนมีการประกาศใช้พระราชบัญญัติกำหนดความผิดเกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน
ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด สมาคม และมูลนิธิ
พ.ศ. ๒๔๙๙
ทำให้สมาคมนักเรียนเก่าวชิราวุธวิทยาลัยที่จัดตั้งขึ้นตั้งแต่สมัยเปลี่ยนแปลงการปกครอง
พ.ศ. ๒๔๗๕ ต้องถูกยุบเลิกไปตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม
พ.ศ. ๒๕๐๐
 |
นักเรียนเก่ามหาดเล็กหลวงเชียงใหม่ จอมพล ประภาส
จารุเสถียร |
 |
พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
ทรงเครื่องพระมหาพิชัยยุทธ
ในคราวเสด็จไปทรงนมัสการพระพุทธมหามณัรัตนปฏิมากร
ในการทรงประกาศสงครามกับเยอรมนี และออสเตรีย -
ฮังการี
เมื่อวันอาทิตย์ที่ ๒๒ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๖๑ |
เมื่อสมาคมนักเรียนเก่าวชิราวุธต้องถูกยุบเลิกไป
การจัดงานวชิราวุธานุสรณ์จึงต้องว่างเว้นไปในช่วง
พ.ศ. ๒๕๐๐ ๒๕๐๒ ต่อมาใน พ.ศ. ๒๕๐๓
ได้มีการจดทะเบียนจัดตั้งสมาคมนักเรียนเก่าวชิราวุธขึ้นอีกครั้ง
โดยมีนักเรียนเก่ามหาดเล็กหลวงเชียงใหม่ พลเอก
ประภาส จารุเสถียร
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นนายกสมาคมฯ
และนักเรียนเก่าวชิราวุธวิทยาลัย คำนึง ชาญเลขา
ประธานกรรมการตรวจเงินแผ่นดินเป็นเลขานุการสมาคมฯ
จึงได้มีการรื้อฟื้นการจัดงานวชิราวุธานุสรณ์ขึ้นอีกครั้งในเดือนธันวาคม
พ.ศ. ๒๕๐๓ และคณะกรรมการสมาคมฯ
ในยุคนั้นได้ประชุมพร้อมกันมีมติให้รื้อฟื้นความคิดเดิมในการที่จะจัดสร้างพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวประดิษฐานไว้
ณ วชิราวุธวิทยาลัย เพื่ออาจารย์ ครู นักเรียน
นักเรียนเก่า
และผู้จงรักภักดีได้รำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณที่ได้พระราชทานกำเนิดสถานศึกษานี้มา
จากนั้นสมาคมนักเรียนเก่าวชิราวุธวิทยาลัย
ในพระบรมราชูปถัมภ์ได้มอบหมายให้นายอนิก สมบูรณ์
อาจารย์ประจำคณะจิตรกรรม ประติมากรรม และภาพพิมพ์
มหาวิทยาลัยศิลปากร
ซึ่งได้รับมอบหมายจากศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี
ให้เป็นผู้สอนวิชากายวิภาคคน กายวิภาคสัตว์
วิชาวาดเส้น และวิชาประติมากรรม
เป็นประติมากรปั้นหล่อพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงเครื่องพระมหาพิชัยยุทธขนาดเท่าพระองค์
เมื่อคราวเสด็จพระราชดำเนินไปทรงนมัสการพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากรเนื่องในการทรงประกาศสงครามกับเยอรมนี
และออสเตรีย ฮังการี เมื่อวันอาทิตย์ที่ ๒๒
กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๖๑
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
บรมนาถบพิตร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ
ให้พระวรวงศ์เธอ กรมหมื่นพิทยลาภพฤฒิยากร
ประธานองคมนตรีเสด็จแทนพระองค์ทรงเททองหล่อพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
ณ มณฑลพิธีหน้ากองอำนวยการจัดงานวชิราวุธานุสรณ์
เนื่องในการทรงปิดงานวชิราวุธานุสรณ์ ณ
พระราชอุทยานสราญรมย์ เมื่อวันที่ ๒๕ พฤศจิกายน
พ.ศ. ๒๕๐๕
 |
พระบรมราชานุสาวรีย์ที่หน้าหอประชุม |
พระบรมรูปที่ปั้นหล่อในคราวนั้น
สมาคมนักเรียนเก่าฯ
ได้มอบหมายให้ประติมากรปั้นหล่อไว้ ๒ พระองค์ๆ
หนึ่งหล่อด้วยปูนปลาสเตอร์
ประดิษฐานไว้เป็นที่เคารพของนักเรียนเก่าและผู้จงรักภักดี
ณ ที่ทำการสมาคมนักเรียนเก่าวชิราวุธวิทยาลัย
ในพระบรมราชูปถัมภ์ อีกพระองค์หล่อด้วยสำริดรมดำ
สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา
สิริโสภาพัณณวดี และพระนางเจ้าสุวัทนา
พระวรราชเทวี
ได้เสด็จมาทรงเป็นประธานในการประดิษฐานพระบรมรูปพระองค์นี้ที่แท่นฐานหินอ่อนซึ่งนักเรียนเก่าวชิราวุธวิทยาลัย
เจือรวี ชมเสวี เป็นผู้ออกแบบ
ประดิษฐานแท่นฐานนี้ในสนามภายในวงเวียนหน้าหอประชุม
มีฉากหลังเป็นมุขหน้าหอประชุม เมื่อเดือนธันวาคม
พ.ศ. ๒๕๐๗
และพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
บรมนาถบพิตร
เสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดพระบรมราชานุสาวรีย์นี้ในงานพระราชทานประกาศนียบัตรและรางวัลแก่นักเรียนวชิราวุธวิทยาลัย
เมื่อวันที่ ๑๑ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๐๘
 |
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
บรมนาถบพิตร
ทรงเปิดพระบรมราชานุสาวรีย์ที่หน้าหอประชุม |