เมื่อพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ
ให้พระยาไพศาลศิลปสาตร (สนั่น เทพหัสดิน ณ อยุธยา
- เจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรี) เจ้ากรมตรวจ
กระทรวงธรรมการ
ในตำแหน่งกรรมการจัดการโรงเรียนมหาดเล็กหลวง
เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทเป็นการส่วนพระองค์ ณ
พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง
เมื่อวันพุธที่ ๒๘ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๕๓
เพื่อรับพระราชกระแสจัดตั้งโรงเรียนสำหรับมหาดเล็กข้าหลวงเดิมนั้น
รุ่งขึ้นวันพฤหัสบดีที่ ๒๙ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๕๓
พระยาไพศาลศิลปสาตรก็ได้ดำเนินกระแสพระบรมราชโองการจัดตั้งโรงเรียนมหาดเล็กหลวงขึ้นที่ตึกยาวริมประตูพิมานไชยศรี
ในพระบรมมหา-ราชวัง
ซึ่งเดิมเป็นที่ตั้งโรงเรียนราชกุมารที่เวลานั้นว่างลงเพราะพระราชกุมารในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวที่เคยทรงศึกษาที่สถานศึกษานั้น
ต่างก็เสด็จออกไปทรงศึกษาต่อต่างประเทศกันหมดแล้ว
ตึกนั้นจึงว่างอยู่
 |
ตึกยาวริมประตูพิมานไชยศรี (ขวาของภาพ)
สถานที่ตั้งโรงเรียนมหาดเล็กหลวงเมื่อแรกสถาปนาใน
พ.ศ. ๒๔๕๓ |
เมื่อเปิดโรงเรียนมหาดเล็กหลวงที่ตึกยาวริมประตูพิมานไชยศรีแล้ว
พรยาไพศาลศิลปสาตร
กรรมการจัดการโรงเรียนมหาดเล็กหลวงได้มีหนังสือกราบบังคมทูลพระกรุณาทราบฝ่าละอองธุลีพระบาท
ความตอนหนึ่งว่า
จำเดิมแต่ข้าพระพุทธเจ้าได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาตเมื่อวันที่
๒๘ ธันวาคม ให้เปิดการสอนที่โรงเรียนราชกุมาร
ข้าพระพุทธเจ้าได้เลือกและรับครูจากกรมศึกษาธิการ
๓ คน คือ นายสอน นายสนั่น
[๑]
นายทองอยู่
ซึ่งเปนครูมีประกาศนียบัตร์ทั้งสามคน
เริ่มการสอนในวันรุ่งขึ้นคือวันที่ ๒๙ ธันวาคม
ซึ่งเปนวันพฤหัศบดีวันครู...
ในวีกต้นข้าพระพุทธเจ้าได้เอาใจใส่วางรูปการเรียนในห้องเรียนให้ลงที่เสียก่อน
แล้วได้เรียกนักเรียนมาสนทนาเรียงตัวครั้งละ ๒ คน
๓ คน ตามแต่จะมีเวลามากและน้อย
เพื่อจะได้เปนโอกาสให้ข้าพระพุทธเจ้าได้รู้จักนักเรียนเฉภาะตัวได้ทั่วกัน
ครั้นต่อมาพอจะก้าวไปถึงการฝึกหัดและปกครองนอกห้องเรียนได้
ข้าพระพุทธเจ้าจึงได้หารือกับหลวงพิทักษ์มานพ
[๒]
เห็นพร้อมกันว่า
ตำแหน่งผู้ช่วยผู้ปกครองซึ่งยังว่างอยู่ตำแหน่งหนึ่งนั้น
ถ้าเอาครูแซกเข้ามาประจำการในตำแหน่งนี้คนหนึ่งจะเปนกำลังช่วยหลวงพิทักษ์มานพในทางปกครองได้มาก
จึงได้รับพระราชทานเลือกนายสอนหัวหน้าในครูทั้ง ๓
คน ให้อยู่ประจำโรงเรียนเปนผู้ช่วยหลวงพิทักษ์มานพ
[๓] |
 |
พระยาบริหารราชมานพ (ศร ศรเกตุ) |
นายสอน หัวหน้าครูโรงเรียนมหาดเล็กหลวงนั้น
ต่อมาได้รับพระราชทานนามสกุลว่า ศรเกตุ
และได้รับแต่งตั้งเป็นผู้ช่วยอาจารย์ใหญ่ฝ่ายปกครองคนแรกของโรงเรียนมหาดเล็กหลวง
ได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์ครั้งแรกเป็นหลวงอภิรักษ์ราชฤทธิ์
แล้วได้รับพระราชทานเลื่อนบรรดาศักดิ์เป็นพระอภิรักษ์ราชฤทธิ์
ต่อมาเมื่อกระทรวงธรรมการเรียกพระโอวาทวรกิจ (เหม
ผลพันธิน - พระยาโอวาทวรกิจ)
ซึ่งกระทรวงให้ยืมตัวมาเป็นอาจารย์ใหญ่โรงเรียนมหาดเล็กหลวงคนแรกกลับคืนไปรับราชการในกระทรวงธรรมการโดยแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนพณิชยการ
(ปัจจุบันคือ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร
วิทยาเขตพาณิชยการพระนคร)
ซึ่งเพิ่งตั้งขึ้นใหม่ตามแผนการศึกษาชาติ พ.ศ.
๒๔๕๖ แล้ว เจ้าพระยาพระเสด็จสุเรนทราธิบดี
(ม.ร.ว.เปีย มาลากุล) เสนาบดีกะทรวงธรรมการ
ผู้ตรวจพิเศษโรงเรียนมหาดเล็กหลวงได้กราบบังคมทูลขอโอนหลวงอนุภาณฯ
มาเป็นอาจารย์ใหญ่โรงเรียนมหาดเล็กหลวงแทน
แต่มีพระราชกระแสว่า ขอให้คนในคือ
พระยาบริหารราชมานพ (ศร ศรเกตุ)
ซึ่งเวลานั้นเป็นพระอภิรักษ์ราชฤทธิ์
ผู้ช่วยอาจารย์ใหญ่ฝ่ายปกครอง
ลองทำการในหน้าที่ครูใหญ่ไปก่อน
พระอภิรักษ์ราชฤทธิ์จึงได้เป็นอาจารย์ใหญ่โรงเรียนมหาดเล็กหลวงมาตั้งแต่วันที่
๘ กันยายน พ.ศ. ๒๔๕๕
 |
กองลูกเสือหลวงถ่ายภาพพร้อมด้วยผู้บังคับบัญชาที่วังวรดิศ
(ยืนกลางแถวหน้าจากซ้าย) |
นายกองตรี พระอภิรักษ์ราชฤทธิ์ (ศร
ศรเกตุ)
อาจารย์ใหญ่โรงเรียนมหาดเล็กหลวง
นายหมู่โท พระยาไพศาลศิลปสาตร (สนั่น
เทพหัสดิน ณ อยุธยา)
กรรมการจัดการโรงเรียนมหาดเล็กหลวง
นายหมู่เอก หลวงอภิบาลบุริมศักดิ์
(ม.ล.ทศทิศ อิศรเสนา)
ผู้ช่วยอาจารย์ใหญ่ฝ่ายวิชาโรงเรียนมหาดเล็กหลวง |
|
ต่อมาวันที่ ๒๐ มกราคม พ.ศ. ๒๔๕๗
ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ
ให้ยกกองลูกเสือหลวงขึ้นเป็นกรมนักเรียนเสือป่าหลวง
และโปรดเกล้าฯ
ให้อาจารย์ใหญ่โรงเรียนมหาดเล็กหลวงเป็นผู้บังคับการกรมนักเรียนเสือป่าหลวงโดยตำแหน่งแล้ว
ต่อมาวันที่ ๑๗ เมษายน พ.ศ. ๒๔๕๘
จึงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ
ให้พระอภิรักษ์ราชฤทธิ์เป็นผู้บังคับการโรงเรียนมหาดเล็กหลวง
ตำแหน่งอาจารย์ใหญ่โรงเรียนมหาดเล็กหลวงจึงเปลี่ยนมาเป็นผู้บังคับการโรงเรียนมหาดเล็กหลวงมาแต่บัดนั้น
พระอภิรักษ์ราชฤทธิ์ซึ่งต่อมาได้รับพระราชทานเลื่อนบรรดาศักดิ์เป็น
พระยาบริหารราชมานพ
ได้ดำรงตำแหน่งผู้บังคับการโรงเรียนมหาดเล็กหลวงมาจนถึงปี
พ.ศ. ๒๔๕๙ เมื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ
ให้ยกโรงเรียนราชวิทยาลัยจากกระทรวงยุติธรรมมาขึ้นสภากรรมการจัดการโรงเรียนมหาดเล็กหลวงแล้ว
จึงได้โปรดเกล้าฯ ให้พระยาบริหารราชมานพ
เป็นผู้บัญชาการโรงเรียนในพระบรมราชูปถัมภ์อีกตำแหน่งหนึ่ง
ให้มีหน้าที่ปกครองบังคับบัญชาราชการในโรงเรียนทั้งสอง
และเมื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ
ให้จัดตั้งโรงเรียนมหาดเล็กหลวงขึ้นที่จังหวัดเชียงใหม่อีกแห่งหนึ่ง
ทำให้ราชการในโรงเรียนในพระบรมราชูปถัมภ์ขยายตัวเพิ่มขึ้น
จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ
ให้จัดตั้งกรมโรงเรียนในพระบรมราชูปถัมภ์ขึ้นในกรมมหาดเล็ก
และได้โปรดเกล้าฯ
ให้พระยาบริหารราชมานพพ้นจากตำแหน่งผู้บัญชาการโรงเรียนในพระบรมราชูปถัมภ์และผู้บังคับการโรงเรียนมหาดเล็กหลวง
แล้วโปรดเกล้าฯ
ให้เป็นเจ้ากรมโรงเรียนในพระบรมราชูปถัมภ์ทำหน้าที่ปกครองบังคับบัญชาราชการในโรงเรียนในพระบรมราชูปถัมภ์ทั้ง
๔ โรงเรียน คือ โรงเรียนมหาดเล็กหลวง
โรงเรียนราชวิทยาลัย
โรงเรียนมหาดเล็กหลวงเชียงใหม่
และโรงเรียนทหารกระบี่หลวง (ต่อมาโปรดเกล้าฯ
ให้เปลี่ยนชื่อเป็น โรงเรียนพรานหลวง)
ต่อมาตราบจนถึงอนิจกรรมเมื่อวันที่ ๑๙ ตุลาคม พ.ศ.
๒๔๖๑ เวลา ๐๔.๕๕ น.
เมื่อความทราบฝ่าละอองธุลีพระบาทว่า
พระยาบริหารราชมานพ
กราบถวายบังคมลาถึงอนิจกรรมแล้ว
ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ
พระราชทานน้ำหลวงอาบศพและหีบทองทึบเป็นเกียรติยศ
นอกจากนั้นยังได้โปรดเกล้าฯ
ให้กรมโรงเรียนในพระบรมราชูปถัมภ์ออกประกาศเชิญชวนสร้าง
ตึกศรเกตุ ไว้ในโรงเรียนมหาดเล็กหลวง ดังนี้
แจ้งความโรงเรียนในพระบรมราชูปถัมภ์
เรื่องชักชวนบรรดาข้าราชการในกรมมหาดเล็ก
และนักเรียนในโรงเรียนมหาดเล็กหลวงที่ออกแล้ว
และยังเป็นนักเรียนอยู่ช่วยกันบริจาคทรัพย์เข้าเรี่ยราย
เพื่อสร้างตึก ศรเกตุ
อุทิศให้แก่พระยาบริหารราชมานพ
------------------
ด้วยในการที่ หัวหมื่น พระยาบริหารราชมานพ (สอน
ศรเกตุ) ได้ถึงแก่อนิจกรรมลง แต่เมื่อวันที่ ๑๙
ตุลาคม พระพุทธศักราช ๒๔๖๑
ย่อมเปนที่เศร้าสลดใจแก่บรรดาข้าราชการในกรมมหาดเล็ก
และบรรดาศานุศิษย์ทั่วไป ด้วยพระยาบริหารราชมานพ
ได้ประกอบไปด้วยคุณสมบัติ
และจริยานุวัตร์อันดีงามหลายประการ
กล่าวคือเปนผู้ที่มีใจโอบอ้อมอารีเผื่อแผ่อย่างรอบคอบ
ทั้งเปนผู้ที่ได้ตั้งใจรับราชการอย่างไม่เห็นแก่เหน็จเหนื่อย
นับจำเดิมแต่พระยาบริหารราชมานพได้เข้ารับราชการเปนครูใหญ่ในโรงเรียนมหาดเล็กหลวง
ก็ได้ตั้งใจปฏิบัติน่าที่ราชการให้ดำเนินขึ้นโดยเรียบร้อยตลอดมาจนกระทั่งได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ
ให้เปนเจ้ากรมโรงเรียนในพระบรมราชูปถัมภ์
นับได้ว่าพระยาบริหารราชมานพได้ทำประโยชน์ให้กรมมหาดเล็กอยู่มาก
อาศรัยเหตุนี้กรมมหาดเล็กจึงได้กราบบังคมทูลพระกรุณา
ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตจัดสร้างตึกไว้ในโรงเรียนมหาดเล็กหลวง
เพื่อเปนอนุสาวารีย์และอุทิศส่วนกุศลให้พระยาบริหารราชมานพ
ทรงพระราชดำริห์เห็นพ้องด้วย
จึงพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้กรมมหาดเล็กจัดการแล้ว
และพระราชทานนามตึกนี้ว่า ตึกศรเกตุ
เนื่องด้วยเหตุนี้
ข้าพเจ้าขอชักชวนบรรดาข้าราชการในกรมมหาดเล็กแลบรรดานักเรียนโรงเรียนในพระบรมราชูปถัมภ์
ทั้งที่ออกแล้วและยังเปนนักเรียนอยู่ช่วยกันบริจาคทุนทรัพย์เข้าเรี่ยราย
เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้แก่พระยาบริหารราชมานพ
ฉนั้นถ้าผู้ใดมึวามประสงค์จะบริจาคทรัพย์เข้าส่วนในการนี้แล้ว
ขอให้ไปตกลงกับ จางวางตรี พระยาธนรัตน์บดี
ปลัดบาญชีกรมมหาดเล็ก ณ พระราชวังสราญรมย์
แจ้งความมา ณ วันที่ ๔ พฤศจิกายน พระพุทธศักราช
๒๔๖๑
(ลงนาม) พระยาประสิทธิ์ศุภการ
จางวางเอก
ผู้อำนวยการโรงเรียนในพระบรมราชูปถัมภ์
[๔]
|
|
การเรี่ยไรเงินเพื่อสร้างตึกศรเกตุนี้
จะได้ผลเป็นประการใดไม่มีพบหลักฐานแน่ชัด รวมทั้ง
ไม่พบว่าได้มีการสร้างตึกศรเกตุไว้ในโรงเรียนมหาดเล็กหลวง
คงพบหลักฐานแต่เพียงว่า
ภายหลังทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ
พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้จัดการพระราชทานเพลิงศพเป็นของหลวงเป็นเกียรติยศพิเศษ
ณ วัดจักรวรรดิราชาวาส เมื่อวันที่ ๑๓ มิถุนายน
พ.ศ. ๒๔๖๓