เมื่อวันที่ ๑๒
พฤศจิกายน ๒๔๗๓ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว
เสด็จพระราชดำเนินมาในงานประจำปีของวชิราวุธวิทยาลัย
และได้พระราชทานพระบรมราโชวาทในคราวนั้นตอนหนึ่งว่า
 |
พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว
และสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี
ประทับพลับพลายกข้างหอประชุมในงานประจำปีของวชิราวุธวิทยาลัย |
ทุกๆ
คราวมาตั้งแต่แรกที่ข้าพเจ้าได้มาให้รางวัลที่โรงเรียนนี้ได้เคยกล่าวอธิบายว่า
พระราชประสงค์ของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าฯ นั้น
ก็เพื่อจะให้โรงเรียนนี้เป็นอย่างปับลิคสกูลอย่างเมืองอังกฤษและทุกคราวได้พยายามหยิบยกลักษณะของปับลิคสกูลมาชี้ให้เห็นว่าเป็นอย่างไร
และทำไมจึ่งมีพระราชประสงค์เช่นนั้น
ในคราวนี้ก็จะยกมากล่าวสักข้อ ๑
เป็นลักษณะที่จะชี้ให้เห็นชัดได้ง่าย
ใครที่ได้เห็นปับลิคสกูลในเมืองอังกฤษคงจะสังเกตแล้วว่าในปับลิคสกูลทุกแห่ง
เขามักจะมีขนบธรรมเนียมยิ่งเก่าก็ยิ่งถือว่าสำคัญมาก
เห็นเป็นสิ่งภูมิใจอย่างหนึ่งธรรมเนียมเหล่านี้มีตั้งแต่วิธีปกครอง
วิธีสอนตลอดจนวิธีแต่งตัวต่างๆ
และวิธีเล่นเกมก็มีขนบธรรมเนียมต่างๆ เหมือนกัน
ยกตัวอย่างที่ได้เคยทราบกันมาแล้ว
เช่นโรงเรียนอีตันเขามีวิธีแต่งตัวพิเศษสวมหมวกสูง
และเสื้อพิเศษ กับมีเกมพิเศษ เรียกว่า Wall game
คือฟุตบอลล์นั้นเอง แต่เล่นกับกำแพง
เกมนี้เล่นกันมาตั้งร้อยปีแล้ว
แต่ก็ยังเล่นกันเรื่อยมา
น่าคำนึงว่าทำไมจึ่งรักษาไว้
ขนบธรรมเนียมบางอย่างน่านึกว่าเป็นของพ้นสมัยแล้ว
ไม่เป็นประโยชน์ก็เป็นได้
เช่นกีฬาวอลล์เกมของอีตันเป็นต้น เล่นได้ไม่กี่คน
แต่เขายังเล่นอยู่เสมอเพื่อรักษาขนบธรรมเนียมไว้
การรักษาขนบธรรมเนียมนั้นย่อมมีประโยชน์ที่จะให้นักเรียนรักโรงเรียนของตน
รู้สึกว่าโรงเรียนของตนได้สร้างมานานแล้ว
มีชื่อมานานแล้ว
และผู้ที่เป็นนักเรียนเก่าได้เคยเป็นใหญ่เป็นโตในประเทศเหล่านี้เป็นต้น
นี่เป็นผลที่ทำให้บังเกิดในใจของนักเรียน
จึ่งได้พยายามรักษาขนบธรรมเนียมว่าโรงเรียนนี้
เป็นอย่างไรมาแล้วดีอย่างไร
นักเรียนทุกคนต้องพยายามตั้งใจให้ดีเหมือนแต่ก่อนนี่เป็นลักษณะการรักษาประเพณีให้เกิดประโยชน์
และนอกจากนั้นก็ย่อมทำให้นักเรียนรักประเพณีของบ้านเมืองด้วย
เพราะไม่ว่าประเทศใดหมดมักจะมีประเพณีของตน
ซึงรักษาต่อๆ กันมา การรักษาประเพณีนั้น
อาจมีบางคนเห็นว่าที่รักษาประเพณีจะมิทำให้ไม่ก้าวหน้าหรือ
ข้อนั้นจริง
ถ้ารักษาอย่างงมงายก็ย่อมไม่ก้าวหน้าได้
ข้อนี้ขอยกตัวอย่างประเทศอังกฤษ
ใครที่ได้ไปประเทศอังกฤษจะเห็นว่าเขาชอบรักษาประเพณีโบราณเป็นที่สุด
เช่นกิจการของปาลีเมนต์มีขนบธรรมเนียมหลายอย่าง
ซึ่งจะเรียกว่าไม่มีประโยชน์ก็ว่าได้
แต่เขาก็พยายามจะรักษาประเพณีนั้นไว้
แต่การรักษาประเพณีของอังกฤษไม่ทำให้ประเทศอังกฤษถอยหลัง
กลับปรากฏแก่ใครๆ ว่ารุ่งเรืองและก้าวหน้าที่สุด
และนำทางในสิ่งใหม่ๆ และคิดการใหม่ๆ ขึ้นได้ถมเถไป
เพราะฉะนั้นการรักษาประเพณีที่ถูกต้อง
ไม่ทำให้งมงายเลย
แต่ต้องเลือกรักษาประเพณีที่ดีเช่นรักษาประเพณีที่ทำให้ภูมิใจ
เหมือนอังกฤษเขารักษาประเพณีที่ทำให้รู้สึกว่าชาติของเขารุ่งเรืองมาแล้วอย่างไร
บรรพบุรุษได้นำให้ชาติเจริญรุ่งเรืองอย่างไร
ก็รักษาธรรมเนียมนั้นไว้เป็นเครื่องเตือนใจว่า
เราจะต้องพยายามทำตนให้ดีเพื่อจะสืบต่อ Tradition
ว่าประเทศของตนเป็นประเทศที่ดีใหญ่หลวงเป็นต้น
สำหรับในโรงเรียนนี้
เวลานี้ต้องนับว่ามีประเพณีหลายอย่างแล้วเหมือนกัน
เป็นต้นว่างานวันนี้เป็นประเพณีอันหนึ่งที่เรามีงานในวันคล้ายวันบรมราชาภิเษกของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าฯ
เพื่อให้นักเรียนระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของท่านที่ทรงสร้างโรงเรียนนี้ขึ้น
และให้รักโรงเรียน ให้ตั้งใจทำตนให้ดีต่อไป
นี่ก็เป็นประเพณีอันหนึ่งที่เกิดขึ้น |
 |
นอกจากนั้นก็มีธรรมเนียมอีกอย่างหนึ่งที่นักเรียนเก่าพวกคณะไทยเขษมที่เชื่อว่าเป็นนักเรียนเก่าของโรงเรียนนี้โดยมาก
ได้รวบรวมกันเก็บเงินทำประโยชน์ให้แก่โรงเรียนนี้
ก็เป็นประเพณีของเราอย่างหนึ่ง
หวังว่าจะเป็นตัวอย่างแก่นักเรียนสืบต่อไปอีกเหมือนกัน
เพราะฉะนั้นในเรื่องการรักษาประเพณี
และการที่จะตั้งประเพณีขึ้นนั้นเป็นของสำคัญส่วนหนึ่งของโรงเรียน
ข้าพเจ้าหวังว่าโรงเรียนจะเอาใจใส่รักษาประเพณที่ดี
ที่มีมาแล้ว และคิดหาประเพณีใหม่ๆ ขึ้นอีก
เพื่อทำให้นักเรียนรู้สึกรักโรงเรียนของตนและชาติของตนต่อไปด้วย
การที่โรงเรียนนี้ได้ทำมาแล้ว เช่น
นิมนต์พระมาเทศนาเป็นต้น
ก็เป็นประเพณีที่ดีควรรักษาไว้เหมือนกัน
การรักษาประเพณีเป็นของมีประโยชน์มาก
นอกจากรักษาประเพณีของโรงเรียนแล้ว
หวังว่านักเรียนจะรักษาประเพณีไทยๆไว้ด้วยเหมือนกัน
ไม่ใช่จะเปลี่ยนแปลงไปหมด
จะยกตัวอย่างหลายอย่างจะมากไป
จะยกตัวอย่างข้อเดียวที่ว่าคนไทย |
 |
สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ
สยามมกุฎราชกุมาร
ทรงทอดผ้าสดับปกรณ์ในการทรงบำเพ็ญพระราชกุศลอุทิศถวายพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
ณ หอประชุมวชิราวุธวิทยาลัย
๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๓ |
เราต้องมีความเคารพนับถือบรรพบุรุษ
ถึงเวลาต้องทำบุญอุททิศกุศลไปให้
เรามีประเพณีเคารพนับถือต่อบิดามารดา นี่
เป็นขนบธรรมเนียมไทยๆ ที่ได้รักษากันมาตลอด
ชื่อว่าเป็นมงคลยิ่งของพวกเราทั้งหลาย
ขนบธรรมเนียมเหล่านี้ควรรักษาไว้
ข้าพเจ้าหวังว่านักเรียนในโรงเรียนนี้จะช่วยกันรักษาไว้
เพราะว่าเป็นไทย ชาติไทยเราก็มีอะไรที่ดีเหมือนกัน
ไม่จำเป็นต้องเอาอย่างคนอื่นเสมอไป
นี่แหละจะทำให้เรารูสึกภูมิใจในตัวเรา
และชาติของเราด้วย |
ฉะนั้นเมื่อพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระมหากรุณาสถาปนาวชิราวุธวิทยาลัยตามแนวทางของ
Public School ของอังกฤษ ซึ่งใน Public School
มีขนบประเพณีที่ถือปฏิบัติกันมาเป็นร้อยปี
ดังที่พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานพระบรมราโชวาทไว้ซึ่งได้อัญเชิญมาข้างต้น
จดหมายเหตุวชิราวุธวิทยาลัยในตอนต่อไปนี้จึงจะขอกล่าวถึงประเพณีในวชิราวุธวิทยาลัย
ที่ถือปฏิบัติสืบต่อกันมา ดังนี้
การเปิด -
ปิดพระวิสูตร
เมื่อพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวพระราชทานกำเนิดโรงเรียนมหาดเล็กหลวง
เมื่อวันที่ ๒๙ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๕๓ แล้วไม่นาน
ก็ได้โปรดเกล้าฯ
พระราชทานพระบรมฉายาลักษณ์ให้โรงเรียนองค์หนึ่ง
เจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรี (สนั่น เทพหัสดิน ณ
อยุธยา)
ซึ่งเวลานั้นเป็นกรรมการจัดการโรงเรียนมหาดเล็กหลวง
ได้จัดให้มีพระวิสูตรปิดคลุมพระบรมฉายาลักษณ์นั้นไว้
และได้ตั้งกติกาไว้ว่า
เมื่อเปิดพระวิสูตรเผยให้เห็นพระบรมฉายาลักษณ์แล้ว
ให้หมายว่า พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
เสด็จออกแล้ว ให้ครูและนักเรียนที่ประชุมอยู่ ณ
สถานที่นั้นสำนึกว่า
ได้ประชุมเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทอยู่หน้าพระที่นั่ง
และเมื่อปิดพระวิสูตรแล้วให้ถือเสมือนว่าเสด็จขึ้นแล้ว
จากนั้นเจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรี
ได้นำความกราบบังคมทูลพระกรุณาทราบฝ่าละอองธุลีพระบาทว่าได้กำหนดระเบียบการเปิด
- ปิดพระวิสูตรในโรงเรียนมหาดเล็กหลวงไว้แล้ว
เป็นที่ต้องด้วยพระราชนิยม
จึงมีพระราชกระแสให้โรงเรียนถือปฏิบัติเป็นประเพณีสืบไป
ต่อมาในสมัยหลังสงครามโลกครั้งที่ ๒ พระยาภะรตราชา
(ม.ล.ทศทิศ อิศรเสนา)
ผู้บังคับการวชิราวุธวิทยาลัยในเวลานั้น
มีดำริให้มีการประโคมในเวลาเปิด -
ปิดพระวิสูตรของโรงเรียน
เหมือนธรรมเนียมการประโคมในเวลาเปิดปิดพระวิสูตรในเวลาเสด็จออกมหาสมาคม
ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ในพระบรมมหาราชวัง
และพระที่นั่งอนันตสมาคม พระราชวังดุสิต
ผู้บังคับการพระยาภะรตราชา
จึงได้ขอให้ท่านผู้หญิงดุษฎีมาลา มาลากุล
ภรรยาของหม่อมหลวงปิ่น มาลากุล
กรรมการอำนวยการวชิราวุธวิทยาลัย
ช่วยแต่งเพลงถวายราชสดุดีให้นักเรียนขับร้องในเวลาเปิดพระวิสูตร
ท่านผู้หญิงดุษฎีมาลา มาลากุล
จึงได้นิพนธ์คำร้องเพลงมหาวชิราวุธราชสดุดีขึ้น
และท่านผู้บังคับการได้มอบให้นักเรียนเก่าพรานหลวงโฉลก
เนตรสูต หัวหน้าวงดุริยางค์กรมศิลปากร
ซึ่งเวลานั้นท่านมาช่วยดนตรีที่โรงเรียนเป็นผู้ประพันธ์ทำนองเพลง
 |
พระบรมฉายาสาทิสลักษณ์พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
ขณะเปิดพระวิสูตรแล้ว |
โรงเรียนได้จัดให้นักเรียนร้องเพลงมหาวชิราวุธราชสดุดี
โดยมีวงจุลดุริยางค์บรรเลงประกอบเป็นครั้งแรกในการบำเพ็ญพระราชกุศลอุทิศถวายพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
ณ หอประชุมวชิราวุธวิทยาลัย เมื่อวันที่ ๒๕
พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๙๒
และต่อมาได้จัดให้นักเรียนขับร้องเพลงนี้ในการถวายราชสดุดีที่พระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
ณ พระบรมราชานุสรณ์สวนลุมพินีตลอดมาทุกปี